ดาวโจนส์ร่วงกว่า 100 จุด หลุดแนว 33,000 หุ้นพลังงานฉุดตลาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 30, 2023 22:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุด หลุดแนว 33,000 จุดในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนขายลดความเสี่ยง ก่อนที่สภาคองเกรสจะลงมติต่อร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ในวันพรุ่งนี้

ณ เวลา 22.16 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 32,960.31 จุด ลบ 133.03 จุด หรือ 0.4%

หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงนำตลาด ตามราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 4 มิ.ย.

ราคาหุ้นเทสลา อิงค์ บริษัทรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้นกว่า 3% ขานรับรายงานที่ว่า นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเทสลา ได้เข้าพบนายฉิน กัง รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ในวันนี้

สำนักข่าว CNBC รายงานว่า อินวิเดีย คอร์ป (Nvidia Corp) ซึ่งเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ได้ขึ้นแท่นเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าตลาดแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้

ราคาหุ้น Nvidia พุ่งขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งในเดือนก.พ.-เม.ย. ซึ่งเป็นไตรมาส 1 ของปีงบการเงิน 2567

โกลด์แมน แซคส์ออกรายงานระบุว่า สภาคองเกรสสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร จะลงมติให้ความเห็นชอบต่อร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ในสัปดาห์นี้

"แม้การลงมติในสภาคองเกรสจะมีความเสี่ยงเล็กน้อย แต่หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ สามารถบรรลุข้อตกลง จึงมีความเป็นไปได้อย่างมากที่ทั้ง 2 สภาในคองเกรสจะให้ความเห็นชอบในสัปดาห์นี้" รายงานระบุ

ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะทำการลงมติต่อร่างกฎหมายดังกล่าวในวันพุธที่ 31 พ.ค. ก่อนที่จะส่งต่อเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาสหรัฐ และหากวุฒิสภาให้ความเห็นชอบ ก็จะส่งต่อให้ปธน.ไบเดนลงนามเป็นกฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป

อย่างไรก็ดี กระบวนการผ่านกฎหมายดังกล่าวจะต้องเสร็จสิ้นก่อนเส้นตายวันที่ 5 มิ.ย. มิฉะนั้นสหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. โดยชะลอตัวจากระดับ 253,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย.

นอกจากนี้ คาดว่าอัตราว่างงานจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.5% ในเดือนพ.ค. จากระดับ 3.4% ในเดือนเม.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ