ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานกว่า 500 จุด ขานรับตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่ง รวมทั้งการที่สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้
ณ เวลา 22.18 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 33,614.13 จุด บวก 552.56 จุด หรือ 1.67%
นอกจากนี้ ดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 1% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2565
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ แสดงความยินดีต่อตัวเลขจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และการที่พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันบรรลุข้อตกลงขยายเพดานหนี้จะเป็นปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐต่อไป
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 339,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 190,000 ตำแหน่ง
ตลาดขานรับตัวเลขการจ้างงานดังกล่าว เนื่องจากบ่งชี้ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง โดยมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 29
นอกจากนี้ ตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ค.ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย 12 เดือน ซึ่งอยู่ที่ระดับ 341,000 ตำแหน่ง
ขณะเดียวกัน นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ หลังการเปิดเผยตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมง ซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 4.3% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.4%
เมื่อเทียบรายเดือน ค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.3% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นักลงทุนยังคงเทน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. หลังการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานในวันนี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 74.8% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 13-14 มิ.ย. และให้น้ำหนักเพียง 25.2% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐ หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐให้การรับรองร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ และคาดว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ จะลงนามในร่างกฎหมายดังกล่าวในวันนี้ ก่อนเส้นตายในวันที่ 5 มิ.ย.