ตลาดหุ้นเอเชียเปิดภาคเช้าบวกในวันนี้ (13 พ.ย.) ขณะที่ นักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากจีนและสหรัฐ ก่อนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐและประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งประเทศจีนจะจัดประชุมแบบพบหน้าในสัปดาห์นี้
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 32,818.15 จุด เพิ่มขึ้น 250.04 จุด หรือ +0.76% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 17,263.00 เพิ่มขึ้น 59.74 จุด หรือ +0.34% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,044.03 จุด เพิ่มขึ้น 5.06 จุด หรือ +0.16%
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐและประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งประเทศจีนมีกำหนดจัดประชุมร่วมกันแบบพบหน้าเป็นครั้งแรกในรอบประมาณ 1 ปีในสัปดาห์นี้
มูดี้ส์ประกาศปรับแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของรัฐบาลสหรัฐสู่ "เชิงลบ" จาก "มีเสถียรภาพ" เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (10 พ.ย.) โดยคาดการณ์ว่า การขาดดุลการคลังของสหรัฐจะยังคงอยู่ในระดับสูงมาก และจะทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ลดลงอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม มูดี้ส์ยังคงตรึงอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้ระยะยาว รวมถึงตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิ์และไม่มีประกันของรัฐบาลสหรัฐไว้ที่ระดับ Aaa
ส่วนเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงสู่ระดับ AA+ จากระดับ AAA โดยระบุว่า ภาวะชะงักงันทางการเมืองส่งผลให้หนี้สินของสหรัฐพุ่งชนเพดานหลายครั้ง และส่วนใหญ่จะรอดพ้นการผิดนัดชำระหนี้ในนาทีสุดท้าย ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้ได้บั่นทอนความเชื่อมั่นในด้านการบริหารการคลัง
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ โดยทางการสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนต.ค.ในวันอังคารที่ 14 พ.ย. และจากนั้นจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค.ในวันพุธที่ 15 พ.ย. ทางการจีนมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการในวันพุธที่ 15 พ.ย.นี้ ซึ่งได้แก่ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค., ยอดค้าปลีกเดือนต.ค., อัตราว่างงานเดือนต.ค. และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนต.ค.