ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าลบ เหตุหุ้น EV ร่วงต่อเนื่องหลังเทสลาเตือนยอดขายทรุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 26, 2024 12:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าลบในวันนี้ (26 ม.ค.) หลังหุ้นกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ในเอเชียปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ขณะที่ นักลงทุนประเมินข้อมูลเงินเฟ้อสำหรับกรุงโตเกียว

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,059.99 จุด ลดลง 151.97 จุด หรือ -0.94%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,895.14 จุด ลดลง 10.97 จุด หรือ -0.38% และดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 35,835.07 จุด ร่วงลง 401.40 จุด หรือ -1.11%

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค.ในวันนี้ โดยระบุว่า BOJ จะยังไม่ยกเลิกการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ และนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (YCC) เมื่อพิจารณาจากข้อมูลที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งรวมถึงการเจรจาเกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าจ้าง

รายงานการประชุมระบุว่า กรรมการหลายคนของ BOJ กล่าวว่า การถอนนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ และ YCC นั้น จะพิจารณาในการประชุมแต่ละครั้งไป และจะพิจารณาบนพื้นฐานของข้อมูลหลากหลายที่ BOJ ได้รับในแต่ละช่วงเวลา

กระทรวงกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลในวันนี้ (26 ม.ค.) ว่า อัตราเงินเฟ้อในกรุงโตเกียวในเดือนม.ค. 2567 ลดลงต่ำกว่า 2% เป็นครั้งแรกในรอบกว่าหนึ่งปีครึ่ง โดยลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ต้องชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมราคาอาหารสด แต่รวมเชื้อเพลิง ในกรุงโตเกียว เพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนม.ค. ลดลงจากระดับ 2.1% ในเดือนธ.ค. และถือเป็นตัวเลขต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2565 เนื่องจากราคาพลังงานลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ราคาที่พักอาศัยและอาหารแปรรูปเพิ่มขึ้นในอัตราที่น้อยลง

หุ้นเสี่ยวเผิง (Xpeng) และหลี่ ออโต้ (Li Auto) ต่างก็ร่วงลงราว 2.5% ขณะที่หุ้น BYD ร่วงลง 3.5% และดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นฮ่องกง (Hang Seng Tech Index) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้านั้น ดิ่งลง 1.7%

ทั้งนี้ หุ้นบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียดิ่งลง หลังจากราคาหุ้นเทสลาร่วงลงกว่า 12% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันพฤหัสบดี (25 ม.ค.) ส่งผลให้มูลค่าตลาดของเทสลาหายไปถึง 8 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 4/2566 และนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลาเตือนว่า การเติบโตของยอดขายของเทสลาจะชะลอตัวลงในปีนี้ แม้บริษัทได้ปรับลดราคารถไฟฟ้าลงหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ