สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (9 พ.ค.) แต่แข็งค่าขึ้นในรอบสัปดาห์นี้เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอย่างฟรังก์สวิส เยนญี่ปุ่น และยูโร หลังจากข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับสหราชอาณาจักรเพิ่มความหวังเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่จะมีขึ้นในวันเสาร์นี้ (10 พ.ค.)
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน อ่อนค่า 0.3% แตะที่ระดับ 100.338
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 145.27 เยนในวันศุกร์ (9 พ.ค.) จากระดับ 145.88 เยนในวันพฤหัสบดี (8 พ.ค.) ส่วนเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 0.8311 ฟรังก์สวิส จาก 0.8312 ฟรังก์สวิส แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาอยู่ที่ 1.3930 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3928 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.1259 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1225 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อังกฤษขยับขึ้นสู่ระดับ 1.3315 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3251 ดอลลาร์
จุดสนใจของตลาดอยู่ที่การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันเสาร์นี้ (10 พ.ค.) ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีถึงข้อตกลงการค้ากับสหราชอาณาจักรที่ยังคงเก็บภาษีสินค้าอังกฤษในอัตราพื้นฐาน 10% แต่ได้ปรับลดภาษีนำเข้ารถยนต์
เงินปอนด์อังกฤษฟื้นตัวหลังจากที่อ่อนค่าลงเมื่อวันพฤหัสบดี ภายหลังการประกาศข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับอังกฤษ
ธนาคารกลางทั่วโลกมีท่าทีแตกต่างกันไปในสัปดาห์นี้ โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด), ธนาคารกลางของสวีเดนและนอร์เวย์ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง