สื่อต่างประเทศรายงานว่า สหรัฐฯ ไม่หยิบยกประเด็นค่าเงินขึ้นมาเจรจาต่อรองกับประเทศต่าง ๆ เพื่อบรรลุข้อตกลงการค้า ซึ่งแม้ข่าวดังกล่าวจะช่วยลดแรงกดดันในตลาดปริวรรตเงินตราช่วงเช้านี้ แต่นักลงทุนยังคงกังวลว่าคณะบริหารของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ อาจจะเดินหน้าผลักดันให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ตามความต้องการของผู้นำสหรัฐฯ
ตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศเผชิญกับความวิตกกังวลว่า คณะบริหารของปธน.ทรัมป์อาจต้องการให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และอาจใช้การเจรจาการค้าเป็นเครื่องมือเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว
สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงราว 8% เมื่อเทียบกับสกุลเงินของประเทศทั่วโลกนับตั้งแต่ทรัมป์กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง โดยที่ผ่านมานั้น ปธน.ทรัมป์มักจะตำหนิประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะประเทศในเอเชียว่ามีเจตนาทำให้สกุลเงินของตนอ่อนค่าลงเพื่อสร้างข้อได้เปรียบด้านการค้ากับสหรัฐฯ รวมถึงญี่ปุ่น ที่ทรัมป์กล่าวหาว่าแทรกแซงค่าเงินเยนให้อ่อนค่าและจงใจทำให้ประเทศตัวเองเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กเป็นสื่อแรกที่รายงานว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ไม่ได้พยายามผลักดันนโยบายค่าเงินให้เป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาข้อตกลงภาษีศุลกากรและการค้ากับหลายประเทศทั่วโลก รายงานระบุว่า สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เป็นสมาชิกเพียงคนเดียวในทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลทรัมป์ที่ได้รับมอบหมายให้จัดการกับเรื่องเหล่านี้ และเขาไม่ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่คนอื่นเข้าร่วมในการเจรจานโยบายค่าเงินกับประเทศคู่ค้า โดยการเจรจาในเรื่องนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะเมื่อมีเขาอยู่ด้วยเท่านั้น