ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์อ่อนค่า นักลงทุนจับตาเงินเฟ้อ-เจรจาการค้า

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (9 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรหลังจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างมากเมื่อวันศุกร์ ภายหลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่สูงเกินคาด ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่กรุงลอนดอน รวมทั้งการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.25% แตะที่ 98.939

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 144.56 เยน จากระดับ 144.85 เยนในวันศุกร์ (6 มิ.ย.) ขณะเดียวกันก็อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8213 ฟรังก์ จากระดับ 0.8222 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3677 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3696 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1428 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1397 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3563 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3530 ดอลลาร์

นักลงทุนรอดูผลการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และจีนที่กรุงลอนดอน ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝั่งสหรัฐฯ นำโดย สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลัง, โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์ และเจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ ส่วนเจ้าหน้าที่ฝั่งจีนนำโดย รองนายกรัฐมนตรีเหอ หลี่เฟิง

ทั้งนี้ นักลงทุนคาดหวังว่าเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าในครั้งนี้ หลังจากการพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นไปด้วยดี

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในวันพุธนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค จะเพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนเม.ย. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนพ.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนเม.ย.