สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (13 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางทวีความรุนแรง ภายหลังอิสราเอลโจมตีอิหร่าน
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.27% แตะที่ระดับ 98.184
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนอยู่ที่ 143.96 เยนในวันศุกร์ (13 มิ.ย.) จาก 143.52 เยนในวันพฤหัสบดี (12 มิ.ย.) ขณะที่ยังทรงตัวเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.8115 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา โดยอยู่ที่ 1.3594 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3603 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนยูโรอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 1.1541 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ จากระดับ 1.1578 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี และเงินปอนด์ของอังกฤษลดลงมาอยู่ที่ 1.3563 ดอลลาร์ จาก 1.3596 ดอลลาร์
อิสราเอลเปิดฉากโจมตีหลายจุดทั่วอิหร่านในวันศุกร์ โดยพุ่งเป้าไปที่โรงงานนิวเคลียร์ โรงงานผลิตขีปนาวุธ และสังหารผู้บัญชาการทหารจำนวนมาก
ด้าน IRNA สื่อของทางการอิหร่านรายงานว่า อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธแบบพิสัยไกลออกไปยังอิสราเอลหลายร้อยลูกเพื่อเป็นการตอบโต้
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของอิสราเอล เรียกร้องให้อิหร่านทำข้อตกลงเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ โดยระบุว่าอิหร่านเป็นฝ่ายก่อให้เกิดการโจมตีขึ้นเอง จากการที่ปฏิเสธคำขาดของสหรัฐฯ ในการเจรจาจำกัดการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม