สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (20 มิ.ย.) แต่แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบสามสัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินเยนซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางสัญญาณว่าความตึงเครียดในตะวันออกกลางเริ่มผ่อนคลาย หลังอิหร่านสนับสนุนการเจรจาอย่างต่อเนื่องกับยุโรปเกี่ยวกับความขัดแย้งกับอิสราเอล
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.16% แตะที่ 98.707
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะ 145.97 เยนในวันศุกร์ (20 มิ.ย.) จากระดับ 145.48 เยนในวันพุธ (18 มิ.ย.) ขณะที่ตลาดปิดทำการในวันพฤหัสบดี (19 มิ.ย.) เนื่องในวัน Juneteenth, ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส อยู่ที่ 0.8172 ฟรังก์ จาก 0.8175 ฟรังก์ และดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา โดยอยู่ที่ 1.3729 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3713 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.1529 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1485 ดอลลาร์ในวันพุธ และเงินปอนด์อังกฤษปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.3465 ดอลลาร์ จาก 1.3458 ดอลลาร์
อับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านกล่าวว่า อิหร่านสนับสนุนการเจรจาเพิ่มเติมกับเยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ และสหภาพยุโรป (EU) และพร้อมที่จะจัดการประชุมอีกครั้งในอนาคตอันใกล้ หลังจากการหารือที่นครเจนีวา
อิสราเอลและอิหร่านได้ทำสงครามทางอากาศต่อเนื่องมานานหนึ่งสัปดาห์ โดยรัฐบาลอิสราเอลมีเป้าหมายเพื่อขัดขวางความพยายามด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน ขณะที่ตลาดรู้สึกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ อาจโจมตีอิหร่าน ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว
ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.6% ในรอบสัปดาห์นี้ แต่ในวันศุกร์ ดัชนียังคงทรงตัว เนื่องจากหนึ่งในผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า ควรพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยให้เร็วที่สุดภายในเดือนก.ค.ท่ามกลางข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดที่เริ่มชะลอตัว
อิหร่านระบุในวันศุกร์ (20 มิ.ย.) ว่าจะไม่หารือเกี่ยวกับอนาคตของโครงการนิวเคลียร์ของตน ในขณะที่ยังคงถูกอิสราเอลโจมตี ขณะที่ยุโรปพยายามเกลี้ยกล่อมให้อิหร่านกลับเข้าสู่กระบวนการเจรจา
ในอีกด้านหนึ่ง ทำเนียบขาวเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (19 มิ.ย.) ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะตัดสินใจภายในสองสัปดาห์ข้างหน้าว่า สหรัฐฯ จะเข้าร่วมทำสงครามในตะวันออกกลางหรือไม่
ถ้อยแถลงนี้ช่วยคลายความกังวลของนักลงทุนบางส่วนที่ว่าสหรัฐฯ อาจเปิดฉากโจมตีอิหร่านในทันที แม้ว่าแนวโน้มที่ความขัดแย้งในตะวันออกกลางจะขยายวงนั้น ยังคงกดดันความเชื่อมั่นในการลงทุนอยู่ก็ตาม