ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ซึ่งทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่ราคาน้ำมันทรุดตัวลงอย่างหนัก
ณ เวลา 23.59 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.58% สู่ระดับ 97.85 ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่า 0.41% สู่ระดับ 1.162 เทียบยูโร และดิ่งลง 0.99% สู่ระดับ 144.68 เยน
ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากการที่นางมิเชล โบว์แมน สมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายเดือนก.ค. หากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ
นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณในวันนี้ว่า เฟดไม่ได้เร่งรีบที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเฟดกำลังรอความชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรที่มีต่อเงินเฟ้อ และเฟดกำลังจับตาทิศทางเศรษฐกิจก่อนที่จะพิจารณาการปรับนโยบายของเฟด
ทั้งนี้ นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ โดยเขาได้กล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพรุ่งนี้
นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดยังคงมุ่งมั่นในการควบคุมเงินเฟ้อ และเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยต่อไป จนกว่าจะมีข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรที่มีต่อราคา
นอกจากนี้ นายพาวเวลล์กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และตลาดแรงงานใกล้เข้าสู่ภาวะการจ้างงานเต็มศักยภาพ แต่นายพาวเวลย้ำว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% และผลกระทบของมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงไม่มีความชัดเจน
"นโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลยังคงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง และผลกระทบต่อเศรษฐกิจก็ยังมีความไม่แน่นอน"
"หน้าที่ของ FOMC คือการรักษาคาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาวให้อยู่ในกรอบ และป้องกันไม่ให้การเพิ่มขึ้นของระดับราคาเพียงชั่วคราวกลายเป็นปัญหาต่อเงินเฟ้อในระยะยาว" นายพาวเวลกล่าว พร้อมเสริมว่า เฟดยังคงพยายามรักษาสมดุลระหว่างเป้าหมายทั้ง 2 ของเฟด ได้แก่ การทำให้การจ้างงานเต็มศักยภาพ และการรักษาเสถียรภาพของราคา ซึ่งหากปราศจากเสถียรภาพของราคา เฟดจะไม่สามารถรักษาภาวะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งและเป็นประโยชน์ต่อชาวอเมริกันทุกคน