สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (24 มิ.ย.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ซึ่งทำให้นักลงทุนหันไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยง ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.56% แตะที่ระดับ 97.858
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 144.69 เยน จากระดับ 146.15 เยนในวันจันทร์ (23 มิ.ย.) ขณะเดียวกันก็อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8044 ฟรังก์ จากระดับ 0.8124 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3724 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3739 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1623 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1574 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3631 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3521 ดอลลาร์
ปธน.ทรัมป์ประกาศในวันจันทร์ (23 มิ.ย.) ว่า อิหร่านและอิสราเอลได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งแม้จะมีรายงานว่าทั้งอิหร่านและอิสราเอลได้ละเมิดข้อตกลงในช่วงแรก แต่การที่ปธน.ทรัมป์สามารถโน้มน้าวให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงได้นั้น ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าความตึงเครียดในตะวันออกกลางเริ่มลดลง นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยืนยันว่าข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้แล้ว และเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายเคารพข้อตกลงดังกล่าว
ทางด้านเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ โดยเขาส่งสัญญาณว่าเฟดไม่ได้เร่งรีบที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเฟดกำลังรอความชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรที่มีต่อเงินเฟ้อ และเฟดกำลังจับตาทิศทางเศรษฐกิจก่อนที่จะพิจารณาการปรับนโยบายของเฟด
พาวเวลยังกล่าวด้วยว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และตลาดแรงงานใกล้เข้าสู่ภาวะการจ้างงานเต็มศักยภาพ แต่พาวเวลย้ำว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% และผลกระทบของมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของปธน.ทรัมป์ยังคงไม่มีความชัดเจน
ทั้งนี้ พาวเวลมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาของสหรัฐฯ ในวันนี้ (25 มิ.ย.) เวลา 21.00 น.ตามเวลาไทย
นักลงทุนให้น้ำหนักกว่า 20% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ค. และให้น้ำหนักเกือบ 70% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 93.0 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 98.4 ในเดือนพ.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 99.5 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
ขณะที่เอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียง 2.7% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี หลังจากพุ่งขึ้น 3.4% ในเดือนมี.ค. เนื่องจากผลกระทบของอุปสงค์ที่ชะลอตัวลง ปริมาณบ้านที่เพิ่มขึ้นในตลาด รวมทั้งการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง ยอดขายบ้านใหม่, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2568 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE)