ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับหนี้สาธารณะของสหรัฐ และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐ
ณ เวลา 20.20 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.26% สู่ระดับ 96.63 ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่า 0.14% สู่ระดับ 1.180 เทียบยูโร และร่วงลง 0.59% สู่ระดับ 143.16 เยน
นักลงทุนจับตาวุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งจะทำการลงมติต่อร่างกฎหมายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งหากวุฒิสภาให้ความเห็นชอบต่อร่างกฎหมายดังกล่าว ก็จะมีการส่งต่อไปยังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเพื่อให้การอนุมัติต่อไป ก่อนที่จะส่งให้ปธน.ทรัมป์ลงนามเป็นกฎหมายภายในวันที่ 4 ก.ค.
อย่างไรก็ดี สำนักงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐ (CBO) ออกรายงานเตือนว่าร่างกฎหมายดังกล่าว จะทำให้หนี้สาธารณะของรัฐบาลเพิ่มขึ้นอีก 3.3 ล้านล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า เขาไม่มีแผนที่จะขยายระยะเวลาผ่อนผันการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับประเทศคู่ค้าหลังจากวันที่ 9 ก.ค. ซึ่งเป็นเส้นตายที่เขากำหนดไว้ และรัฐบาลของเขาจะส่งจดหมายแจ้งไปยังประเทศต่าง ๆ เกี่ยวกับภาษีที่สหรัฐจะเรียกเก็บกับประเทศดังกล่าว เว้นแต่จะสามารถบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐ
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และตัวเลขจ้างงานสหรัฐ
ทั้งนี้ นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในงานเสวนาว่าด้วยระบบธนาคารกลางประจำปีนี้ ในการประชุมซึ่งมีธนาคารกลางยุโรป (ECB) เป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในวันนี้ที่เมืองซินตรา ประเทศโปรตุเกส โดยนายพาวเวลจะกล่าวสุนทรพจน์ในเวลา 09.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 20.30 น.ตามเวลาไทย
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวล เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
ในการกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์ที่แล้ว นายพาวเวลส่งสัญญาณว่า เฟดไม่ได้เร่งรีบที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเฟดกำลังรอความชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรที่มีต่อเงินเฟ้อ และเฟดกำลังจับตาทิศทางเศรษฐกิจก่อนที่จะพิจารณาการปรับนโยบายของเฟด
นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดยคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายน ตุลาคม และธันวาคม จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้ง หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ซบเซา
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 78.8% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือนก.ค.
นอกจากนี้ FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนก.ย., ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเดือนต.ค. และปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75% ในการประชุมเดือนธ.ค.
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมิ.ย.ในวันพฤหัสบดีที่ 3 ก.ค.
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเร็วขึ้นจากเดิมที่มักเปิดเผยตัวเลขในวันศุกร์ เนื่องจากวันศุกร์ที่ 4 ก.ค.เป็นวันหยุดราชการของสหรัฐ เนื่องในวันชาติสหรัฐ
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 120,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 139,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค.
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.3% ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 4.2% ในเดือนพ.ค.