สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (8 ก.ค.) โดยปรับตัวตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของเฟด
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.03% แตะที่ระดับ 97.514
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 146.66 เยน จากระดับ 146.18 เยนในวันจันทร์ (7 ก.ค.) และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3677 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3662 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.7958 ฟรังก์ จากระดับ 0.7983 ฟรังก์
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1727 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1719 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3595 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3612 ดอลลาร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นแตะระดับ 4.427% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีปรับตัวขึ้นแตะระดับ 4.967%
นักลงทุนยังคงจับตาการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ต่อประเทศคู่ค้า โดยแคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า สหรัฐฯ จะส่งจดหมายไปยังประเทศต่าง ๆ เพิ่มเติมในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐฯ (NFIB) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมร่วงลงสู่ระดับ 98.6 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 98.8 ในเดือนพ.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 98.7
ดัชนีความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มยอดขาย และสินค้าคงคลังที่มากเกินไป ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า
นักลงทุนจับตารายงานการประชุมวันที่ 17-18 มิ.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะมีการเผยแพร่ในวันนี้ (9 ก.ค.) เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของเฟด