สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (21 ก.ค.) ตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลง ขณะที่นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.6%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 4.370% ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันดอลลาร์
นักลงทุนจับตาเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมทบทวนแบบบูรณาการเกี่ยวกับกรอบเงินกองทุนสำหรับธนาคารขนาดใหญ่ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ในวันนี้ (22 ก.ค.) เวลา 08.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 19.30 น.ตามเวลาไทย เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25%-4.50% ในการประชุมวันที่ 29-30 ก.ค.นี้ และให้น้ำหนักกว่า 50% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย.
ขณะเดียวกันนักลงทุนติดตามความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และบรรดาประเทศคู่ค้า ก่อนที่จะถึงกำหนดเส้นตายในวันที่ 1 ส.ค. ขณะที่โฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ กล่าวว่า วันที่ 1 ส.ค. ถือเป็นกำหนดเส้นตายสำหรับประเทศต่าง ๆ ที่จะต้องเริ่มชำระภาษีศุลกากรให้กับสหรัฐ
"ไม่มีอะไรที่จะมาหยุดยั้งประเทศเหล่านี้จากการเจรจากับเราหลังวันที่ 1 ส.ค. แต่พวกเขาจะต้องเริ่มจ่ายภาษีตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค." ลุตนิกกล่าว และเสริมว่า ประเทศขนาดเล็ก เช่น ประเทศลาตินอเมริกา ประเทศในแถบแคริบเบียน และอีกหลายประเทศในแอฟริกา จะถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราขั้นต่ำ 10% ส่วนประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่จะต้องเลือกว่าจะเปิดตลาดของตนเอง หรือจะยอมจ่ายภาษีที่เป็นธรรมให้กับสหรัฐ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลทรัมป์ โดยข้อมูลดังกล่าวรวมถึงยอดขายบ้านมือสอง, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการ, ยอดขายบ้านใหม่ และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน