สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (28 ก.ค.) ขานรับข่าวการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 1.02% แตะที่ระดับ 98.634
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 148.56 เยน จากระดับ 147.56 เยนในวันศุกร์ (25 ก.ค.) ขณะเดียวกันก็แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8033 จากระดับ 0.7948 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3734 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3710 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1595 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1745 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3354 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3435 ดอลลาร์
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้บรรลุข้อตกลงการค้าร่วมกันแล้วในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (27 ก.ค.) โดยสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจาก EU ในอัตรา 15% ลดลงครึ่งหนึ่งจากก่อนหน้านี้ที่สหรัฐฯ ขู่เรียกเก็บในอัตรา 30 โดยมาตรการภาษีดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค.
การทำข้อตกลงกับ EU นับเป็นการประกาศข้อตกลงการค้าครั้งล่าสุดระหว่างสหรัฐฯ กับบรรดาประเทศคู่ค้าซึ่งรวมถึงญี่ปุ่นและอินโดนีเซีย ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนรอดูผลการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายเศรษฐกิจระดับสูงของสหรัฐฯ และจีนที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดนในวันจันทร์ โดยการเจรจามีเป้าหมายที่จะขยายเส้นตายการบังคับใช้อัตราภาษีศุลกากรในระดับสูงออกไปจากเดิมที่กำหนดไว้ในวันที่ 12 ส.ค.
นักลงทุนรอดูผลประชุมเฟดซึ่งจะมีการแถลงในวันพุธ โดยตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมครั้งนี้ แม้ว่าปธน.ทรัมป์พยายามกดดันเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็ตาม
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย. เพื่อประเมินว่ามาตรการภาษีศุลกากรจะส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อและตลาดแรงงานอย่างไร
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้นเพียง 108,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 147,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.2% ในเดือนก.ค. จากระดับ 4.1% ในเดือนมิ.ย.