ค่าเงินรูเปียห์ของอินโดนีเซียอ่อนค่าลงถึง 0.4% ในช่วงต้นการซื้อขายวันนี้ (31 ก.ค.) แตะระดับ 16,460 รูเปียห์ต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยอ้างถึงความไม่แน่นอนของผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ
ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) ได้ดำเนินการเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงินรูเปียห์ โดยให้เคลื่อนไหวสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการแทรกแซงทั้งในตลาดสปอต, สัญญาซื้อขายล่วงหน้าแบบไม่มีการส่งมอบ (NDF), การซื้อพันธบัตรรัฐบาลภายในประเทศ และการดำเนินการในตลาด NDF ต่างประเทศ
แม้ว่าตลาดจะคาดการณ์ไว้แล้วว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย แต่เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ยังไม่ระบุชัดเจนถึงทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ลดช่วงบวกลง และเคลื่อนไหวทรงตัวในการซื้อขายในตลาดเอเชีย
เออร์วิน ฮูตาเปีย ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายนโยบายการเงินและการบริหารหลักทรัพย์ของ BI ระบุว่า การแทรกแซงในตลาดเป็นความพยายามของธนาคารกลางในการรักษาสมดุลของอุปสงค์และอุปทานในตลาดเงินตราต่างประเทศ พร้อมย้ำว่ารูเปียห์เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับสกุลเงินอื่น ๆ ในภูมิภาคที่ต่างอ่อนค่าลงจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐโดยรวม
ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งแกร่ง แม้จะอยู่ภายใต้แรงกดดันจากมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลให้เกิดแรงกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงค่าเงินของประเทศตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชีย