สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (1 ส.ค.) หลังจากข้อมูลจ้างงานของสหรัฐฯ บ่งชี้ว่า นายจ้างเพิ่มตำแหน่งงานในเดือนก.ค. น้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ ขณะเดียวกันตัวเลขการจ้างงานของเดือนก่อนหน้าก็ได้ถูกปรับลดลงอย่างมาก ทำให้นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในปีนี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.83% แตะที่ระดับ 99.139
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน โดยอยู่ที่ 147.85 เยนในวันศุกร์ (1 ส.ค.) จากระดับ 150.76 เยนในวันพฤหัสบดี (31 ก.ค.) ขณะเดียวกันดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 0.8081 ฟรังก์สวิส จาก 0.8122 ฟรังก์สวิส และลดลงแตะ 1.3817 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3846 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.1526 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1427 ดอลลาร์ และเงินปอนด์อังกฤษเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 1.3227 ดอลลาร์ จาก 1.3220 ดอลลาร์
ข้อมูลระบุว่า นายจ้างในสหรัฐฯ เพิ่มการจ้างงานเพียง 73,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 110,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 4.2% ตามที่คาดไว้ จาก 4.1% ในเดือนมิ.ย. ส่วนตัวเลขการจ้างงานเดือน มิ.ย. ถูกปรับลดลงอย่างรุนแรง เหลือเพียง 14,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่รายงานไว้ 147,000 ตำแหน่ง
แม้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังส่งสัญญาณว่าไม่เร่งรีบที่จะลดดอกเบี้ย เนื่องจากกังวลว่านโยบายเก็บภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจจุดชนวนเงินเฟ้อในช่วงหลายเดือนข้างหน้า แต่หลังจากรายงานการจ้างงานที่อ่อนแอ สัญญาอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้ากลับมาสะท้อนความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้ง
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด แสดงมุมมองเชิงคุมเข้มต่อนโยบายการเงิน และไม่ให้สัญญาณใด ๆ ว่าจะลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. ส่งผลให้นักลงทุนลดคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม หลังจากตัวเลขจ้างงานเผยแพร่ในวันศุกร์ นักลงทุนกลับมาเพิ่มคาดการณ์อีกครั้ง โดยตอนนี้ตลาดคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยรวม 0.63% ภายในสิ้นปีนี้ เพิ่มขึ้นจากราว 0.34% เมื่อวันพฤหัสบดี โดยคาดว่าเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนก.ย.
ค่าเงินดอลลาร์ร่วงต่อเนื่องในวันศุกร์ หลังเฟดประกาศว่า อาเดรียนา คุกเลอร์ ผู้ว่าการเฟด จะลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 8 ส.ค.นี้
ขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังมีคำสั่งให้ปลด เอริกา แมคเอนทาร์เฟอร์ กรรมาธิการสำนักงานสถิติแรงงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ หลังตัวเลขการจ้างงานต่ำกว่าคาดและปรับลดตัวเลขจ้างงานในเดือนก่อนหน้า ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับทำเนียบขาว