ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์อ่อนค่า คาดเฟดหั่นดอกเบี้ยหลังจ้างงานซบเซา

ข่าวต่างประเทศ Tuesday September 9, 2025 07:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (8 ก.ย.) เนื่องจากข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.32% แตะที่ระดับ 97.454

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.7933 ฟรังก์ จากระดับ 0.7982 ฟรังก์ในวันศุกร์ (5 ก.ย.) และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3814 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3848 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 147.46 เยน จากระดับ 147.36 เยน

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1761 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1719 ดอลลาร์ในวันศุกร์ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3553 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3509 ดอลลาร์

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 22,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 75,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.3% สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 4.2% ในเดือนก.ค.

เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 16-17 ก.ย.นี้ และให้น้ำหนัก 12% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งนี้

ทางด้านบริษัทโบรกเกอร์หลายแห่งได้ปรับเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยนักวิเคราะห์ของ Barclays คาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยจำนวน 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ในปีนี้ เทียบกับที่เคยคาดไว้ 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ขณะที่ Standard Chartered คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนก.ย. ซึ่งเพิ่มขึ้นสองเท่าจากที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้

ผลการสำรวจของเฟดสาขานิวยอร์กประจำเดือนส.ค.พบว่า ชาวอเมริกันมีความกังวลต่อตลาดแรงงาน ท่ามกลางความวิตกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานใหม่ นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังพบว่าผู้บริโภคมีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับสถานะทางการเงินในปัจจุบัน ขณะที่คาดการณ์เงินเฟ้อในอนาคตยังคงทรงตัว

ทั้งนี้ ผลการสำรวจบ่งชี้ว่า ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนมากเชื่อว่าการหางานใหม่จะยากขึ้นหากพวกเขาประสบภาวะตกงาน โดยความน่าจะเป็นที่คาดว่าจะหางานใหม่ได้ในกรณีดังกล่าวอยู่ที่ 44.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2556 และลดลงจาก 50.7% ในเดือนก.ค.

นอกจากนี้ ผู้บริโภคเพิ่มความวิตกเกี่ยวกับการว่างงานในอนาคต เช่นเดียวกับความกังวลต่อความเสี่ยงที่จะตกงาน โดยผู้ตอบแบบสอบถาม 14.5% ระบุว่ามีโอกาสตกงาน สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ 14%

แนวโน้มที่ย่ำแย่ในการจ้างงานดังกล่าว ถือเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่สะท้อนถึงปัญหาในตลาดแรงงาน ขณะที่ข้อมูลของรัฐบาลที่เผยแพร่ตลอดสองเดือนที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวลงอย่างชัดเจนของอัตราการขยายตัวของการจ้างงาน พร้อมกับการปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนก่อน ๆ ลงอย่างมาก

นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้ โดยทางการสหรัฐฯ จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค.ในวันพุธนี้ และจากนั้นจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค.ในวันพฤหัสบดี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ