ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์แข็งค่า หลังข้อมูลชี้ตลาดแรงงานฟื้นตัว

ข่าวต่างประเทศ Friday September 19, 2025 07:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (18 ก.ย.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงสู่ระดับต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด แต่ส่งสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดว่าเฟดอาจไม่รีบร้อนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.49% แตะที่ 97.349

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 147.95 เยน จากระดับ 146.72 เยนในวันพุธ (17 ก.ย.) ขณะเดียวกันก็แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.7927 ฟรังก์ จากระดับ 0.7886 ฟรังก์ และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3807 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3771 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1779 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1835 ดอลลาร์ในวันพุธ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3550 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3640 ดอลลาร์

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 33,000 ราย สู่ระดับ 231,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 241,000 ราย หลังพุ่งแตะระดับ 264,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี

คณะกรรมการเฟดมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเมื่อวันพุธ ส่วนในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% ภายสิ้นปีนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 1 ครั้งในปี 2569 และลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% จำนวน 1 ครั้งในปี 2570

อย่างไรก็ดี เฟดส่งสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงของเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินในในอนาคต โดยเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการปรับลดเพื่อบริหารจัดการความเสี่ยง เพื่อตอบสนองต่อตลาดแรงงานที่อ่อนแอลง เนื่องจากการจ้างงานมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเผชิญภาวะขาลงเมื่อเทียบกับตัวเลขเงินเฟ้อ แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อยังคงต้องมีการประเมินและต้องควบคุม

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติด้วยคะแนนเสียง 7-2 ในการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.00% ในการประชุมเมื่อวานนี้ สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

BoE ระบุในแถลงการณ์ว่า ทางธนาคารจะดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินอย่างระมัดระวังและค่อยเป็นค่อยไป โดยจะจับตาแรงกดดันจากเงินเฟ้อ และความจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน

นักวิเคราะห์ระบุว่า BoE ต้องการที่จะเห็นหลักฐานมากขึ้นที่บ่งชี้ว่าเงินเฟ้ออยู่ในทิศทางขาลง ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไป เนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปจะกระตุ้นแรงกดดันจากเงินเฟ้อ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ