ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนทรุดหนักในเดือนก.ย. ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานสหรัฐ และจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 19.35 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.21% สู่ระดับ 97.57 ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่า 0.17% สู่ระดับ 1.175 เทียบยูโร และร่วงลง 0.75% สู่ระดับ 146.78 เยน
ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐลดลง 32,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นการทรุดตัวของการจ้างงานครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง หรือนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2566 และสวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าเพิ่มขึ้น 52,000 ตำแหน่ง
ทั้งนี้ ภาคการผลิตมีการจ้างงานลดลง 4,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาคบริการมีการจ้างงานลดลง 28,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ ADP ยังได้ปรับทบทวนตัวเลขการจ้างงานในเดือนส.ค.เป็นลดลง 3,000 ตำแหน่ง จากเดิมรายงานว่าเพิ่มขึ้นถึง 54,000 ตำแหน่ง
ขณะเดียวกัน ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากการที่สหรัฐเริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ในวันนี้
ทั้งนี้ สหรัฐเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์อย่างเป็นทางการในวันนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 7 ปี และครั้งที่ 3 ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวที่จะช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลหลีกเลี่ยงการถูกชัตดาวน์
การชัตดาวน์จะส่งผลให้กระทรวงแรงงานสหรัฐไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในวันที่ 2 ต.ค., ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันที่ 3 ต.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันที่ 15 ต.ค. ซึ่งล้วนเป็นตัวเลขสำคัญต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก่อนจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 28-29 ต.ค.
ขณะนี้ ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการชัตดาวน์ในรอบนี้จะกินเวลานานเพียงใด หลังจากที่ปธน.ทรัมป์เคยสร้างสถิติชัตดาวน์นานถึง 35 วัน ซึ่งเป็นระยะเวลายาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐในขณะที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก ท่ามกลางความขัดแย้งเกี่ยวกับการสร้างกำแพงกั้นแนวชายแดนระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก ซึ่งจบลงด้วยการที่สภาคองเกรสยอมผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว โดยแลกกับการที่งบประมาณฉบับดังกล่าวไม่มีการตั้งวงเงินสำหรับการสร้างกำแพงตามที่ปธน.ทรัมป์เรียกร้อง
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังปรับตัวลงจากคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน โดยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ หลังจากที่เฟดได้ดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในปีนี้เมื่อวันที่ 17 ก.ย.