ดอลลาร์อ่อนค่าเทียบสกุลเงินหลัก และมีแนวโน้มทำสถิติปรับตัวย่ำแย่ที่สุดในสัปดาห์นี้นับตั้งแต่เดือนก.ค. เนื่องจากการที่สหรัฐเผชิญกับการปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ได้เพิ่มความไม่แน่นอนในตลาด
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนที่ทรุดหนักในเดือนก.ย. ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานสหรัฐ และจะเป็นปัจจัยหนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ณ เวลา 20.29 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.12% สู่ระดับ 97.73 ขณะที่ดอลลาร์ร่วงลง 0.21% สู่ระดับ 1.174 เทียบยูโร และอ่อนค่า 0.01% สู่ระดับ 147.21 เยน
วุฒิสภาสหรัฐเตรียมลงมติต่อร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวครั้งใหม่ในวันนี้ หลังจากที่พักการประชุมวานนี้ เนื่องในวัน Yom Kippur หรือ "วันแห่งการชดใช้บาป" (Day of Atonement) ซึ่งเป็นวันสำคัญที่สุดวันหนึ่งของศาสนายิว
ในการลงมติ 2 ครั้งก่อนหน้านี้ในวันที่ 30 ก.ย.และ 1 ต.ค. ที่ประชุมวุฒิสภาให้การอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวด้วยคะแนนเสียงเพียง 55 เสียง ขณะที่คัดค้าน 45 เสียง โดยพรรครีพับลิกันยังคงไม่สามารถรวบรวมเสียงสนับสนุนมากถึง 60 เสียงตามที่กฎหมายกำหนด ส่งผลให้ร่างงบประมาณดังกล่าวตกไป และทำให้สหรัฐยังคงอยู่ในภาวะชัตดาวน์
สำหรับการลงมติในวันนี้ หลายฝ่ายยังคงคาดว่าวุฒิสภาสหรัฐจะไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณดังกล่าว เนื่องจากยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน หลังจากที่แต่ละฝ่ายต่างกล่าวโทษซึ่งกันและกันว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการชัตดาวน์
การชัตดาวน์ส่งผลให้กระทรวงแรงงานสหรัฐไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในวันที่ 2 ต.ค., ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันที่ 3 ต.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันที่ 15 ต.ค. ซึ่งล้วนเป็นตัวเลขสำคัญต่อการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก่อนจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 28-29 ต.ค.
ขณะนี้ ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าการชัตดาวน์ในรอบนี้จะกินเวลานานเพียงใด หลังจากที่ปธน.ทรัมป์เคยสร้างสถิติชัตดาวน์นานถึง 35 วันในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก ซึ่งเป็นระยะเวลาชัตดาวน์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ ท่ามกลางความขัดแย้งเกี่ยวกับการสร้างกำแพงกั้นแนวชายแดนระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก ซึ่งจบลงด้วยการที่สภาคองเกรสยอมผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว โดยแลกกับการที่งบประมาณฉบับดังกล่าวไม่มีการตั้งวงเงินสำหรับการสร้างกำแพงตามที่ปธน.ทรัมป์เรียกร้อง
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมว่าด้วยธนาคารชุมชนที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ นายพาวเวลจะกล่าวสุนทรพจน์ในวันที่ 9 ต.ค. เวลา 08.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 19.30 น.ตามเวลาไทย
ตลาดจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวล เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมทั้งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐจากภาวะชัตดาวน์
นักลงทุนเทน้ำหนักเกือบ 100% ต่อคาดการณ์ที่ว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ ซึ่งจะเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ของเฟดในปีนี้ หลังสหรัฐเผชิญภาวะชัตดาวน์ รวมทั้งการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอในภาคเอกชนสหรัฐ
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเดือนต.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 89.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75% ในการประชุมเดือนธ.ค.