ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์อ่อนค่า กังวลปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ยืดเยื้อ

ข่าวต่างประเทศ Saturday October 4, 2025 07:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (3 ต.ค.) และปรับตัวลงรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบหลายสัปดาห์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปิดทำการของหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งสร้างความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและทำให้การเผยแพร่ข้อมูลสำคัญ เช่น ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ต้องล่าช้าออกไป

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.13% แตะที่ 97.723

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นแตะ 147.50 เยนในวันศุกร์ (3 ต.ค.) จาก 147.21 เยนในวันพฤหัสบดี (2 ต.ค.) ขณะที่อ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 0.7954 ฟรังก์สวิส จาก 0.7977 ฟรังก์สวิส และอ่อนค่าแตะ 1.3953 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3963 ดอลลาร์แคนาดา

ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.1740 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1721 ดอลลาร์ และเงินปอนด์อังกฤษแข็งค่าขึ้นแตะ 1.3480 ดอลลาร์ จาก 1.3447 ดอลลาร์

รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ สำหรับเดือนก.ย. มีกำหนดเผยแพร่ในวันศุกร์ แต่ไม่สามารถประกาศได้เนื่องจากการปิดหน่วยงานรัฐบาล

เงินเยนอ่อนค่าลงจากระดับแข็งค่าที่สุดในสัปดาห์นี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาท่าทีต่อไปของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ก่อนการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ที่จะจัดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้

นักวิเคราะห์รายหนึ่งระบุว่า หากการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ยืดเยื้อหลายสัปดาห์ นักลงทุนจะเริ่มตั้งคำถามต่อเสถียรภาพของการบริหารประเทศในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อค่าเงินดอลลาร์

นักวิเคราะห์อีกรายกล่าวว่า ตลาดเงินยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบและขาดแรงขับเคลื่อนที่ชัดเจน โดยการปิดทำการหน่วยงานรัฐบาลทำให้การซื้อขายผันผวนน้อยลง

ดอลลาร์ยังอ่อนค่าหลังข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า กิจกรรมภาคบริการของสหรัฐฯ ชะลอตัวในเดือนก.ย. โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของ ISM ลดลงเหลือ 50 จาก 52.0 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับกึ่งกลางระหว่างการขยายตัวและหดตัว และต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 51.7

คาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ แสดงท่าทีระมัดระวังต่อเศรษฐกิจโลก ทำให้ความคาดหวังเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ลดลง ขณะเดียวกันตลาดยังจับตาการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค LDP ในวันเสาร์นี้ (4 ต.ค.) ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น และส่งผลต่อทิศทางงบประมาณและนโยบายการเงินของประเทศ โดยผู้สมัครตัวเต็งอย่าง ซานาเอะ ทาคาอิจิ ที่มีจุดยืนนโยบายการเงินผ่อนคลาย อาจสร้างความผันผวนในตลาดพันธบัตร ขณะที่ ชินจิโร โคอิซูมิ รัฐมนตรีเกษตร และ โยชิมาสะ ฮายาชิ โฆษกรัฐบาล มีแนวโน้มสร้างเสถียรภาพมากกว่า

บรรดานักลงทุนคาดการณ์เกือบจะแน่นอนว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนต.ค. และโดยรวมตลาดฟิวเจอร์สสะท้อนว่า ปีนี้จะมีการลดดอกเบี้ยราว 0.47% หรือ 2 ครั้ง ตามข้อมูลของ LSEG

สตีเฟน มิแรน กรรมการเฟดกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงมากจำเป็นต้องมีการลดดอกเบี้ยเชิงรุก แม้ความเห็นของเขาอาจไม่แตกต่างจากกรรมการเฟดคนอื่น ๆ เท่าที่ตลาดรับรู้ โดยเขาเพิ่งลงมติผลักดันให้เฟดลดดอกเบี้ยถึง 0.50%

สัปดาห์นี้ยังมีสัญญาณชะลอตัวของตลาดแรงงานเพิ่มขึ้น โดยรายงานการจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ระบุว่าตัวเลขการจ้างงานเดือนก.ย. ลดลง 32,000 ตำแหน่ง ซึ่งอาจเป็นอีกแรงกดดันให้เฟดปรับลดดอกเบี้ย

อย่างไรก็ตาม ลอรี โลแกน ประธานเฟดสาขาดัลลัสยังย้ำมุมมองว่า ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่ยังคงมีอยู่ ตลาดแรงงานที่ค่อนข้างสมดุล และนโยบายการเงินที่เพิ่งตึงตัวเพียงเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่า เฟดยังไม่ควรเร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในตอนนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ