ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (15 ต.ค.) หลังจากเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณยุติการใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงิน เนื่องจากตลาดแรงงานอ่อนแอลงอย่างมาก นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.25% แตะที่ 98.794
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 151.33 เยน จากระดับ 151.77 เยนในวันอังคาร (14 ต.ค.) และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.7975 ฟรังก์ จากระดับ 0.8010 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4052 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4036 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1633 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1605 ดอลลาร์ในวันอังคาร ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3383 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3327 ดอลลาร์
ในการกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมของสมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติสหรัฐ (NABE) ที่เมืองฟิลาเดลเฟียในวันอังคาร (14 ต.ค.) พาวเวลกล่าวว่า เฟดอาจใกล้ถึงจุดที่จะยุติการลดขนาดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นท่าทีล่าสุดของเฟดเกี่ยวกับการใช้นโยบาย "คุมเข้มเชิงปริมาณ" (quantitative tightening) หรือ QT ซึ่งเป็นกระบวนการลดการถือครองสินทรัพย์ในงบดุลของเฟดที่มีมูลค่ามากกว่า 6 ล้านล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ พาวเวลได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความอ่อนแอของตลาดแรงงาน ซึ่งมุมมองดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ เพื่อพยุงเศรษฐกิจและตลาดแรงงานภายในประเทศ
"แม้อัตราว่างงานจะยังคงต่ำจนถึงเดือนส.ค. แต่การจ้างงานใหม่ได้ลดลงอย่างมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการชะลอตัวของตลาดแรงงาน อันเนื่องจากการอพยพและการมีส่วนร่วมในตลาดแรงงานที่ลดต่ำลง" พาวเวลกล่าว และเสริมว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ได้ตอบสนองต่อสถานการณ์แรงงานในเดือนก.ย. ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ย 0.25%
ทางด้านสตีเฟน มิแรน สมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการเฟดซึ่งกล่าวกับ CNBC ว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ เนื่องจากตลาดแรงงานอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด
นักลงทุนให้น้ำหนัก 98% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนนี้ และให้น้ำหนักเต็ม 100% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือนธ.ค.