ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (21 ต.ค.) หลังจาก ซานาเอะ ทาคาอิจิ ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น ซึ่งทำให้นักลงทุนมองว่าโอกาสที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้มีน้อยลง ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ และการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.35% แตะที่ 98.934
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 151.91 เยน จากระดับ 150.69 เยนในวันจันทร์ (20 ต.ค.) และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.7961 ฟรังก์ จากระดับ 0.7919 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4036 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.4036 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1605 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1646 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3373 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3409 ดอลลาร์
ซานาเอะ ทาคาอิจิ หัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวานนี้ หลังได้รับคะแนนสนับสนุนจากสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นจำนวน 237 เสียง จากทั้งหมด 465 เสียง
ทั้งนี้ ทาคาอิจิมีจุดยืนสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงินและใช้มาตรการกระตุ้นด้านการคลังเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งจุดยืนดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ลังเลที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด หลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่าการเจรจาอาจมีความคืบหน้า โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า ภาษีศุลกากรในอัตราสูงถึง 100% ที่เขาขู่ว่าจะเรียกเก็บจากจีนเพิ่มเติมนั้น จะไม่มีความยั่งยืน ขณะเดียวกันทรัมป์ได้แสดงความหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าอย่างเป็นธรรมกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในระหว่างการประชุมร่วมกันที่เกาหลีใต้ในช่วงปลายเดือนนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนก.ย.ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ที่ 24 ต.ค. ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 28-29 ต.ค.
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 98.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 29 ต.ค. และให้น้ำหนัก 96.7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมวันที่ 10 ธ.ค.