ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (24 ต.ค.) หลังจากอ่อนค่าลงในช่วงสั้น ๆ เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อบ่งชี้ว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนก.ย. ทำให้ตลาดยังมั่นใจว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.02% แตะที่ระดับ 98.953
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนอยู่ที่ 152.87 เยนในวันศุกร์ (24 ต.ค.) จากระดับ 152.53 เยนในวันพฤหัสบดี (23 ต.ค.), แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสแตะ 0.7957 ฟรังก์ จาก 0.7952 ฟรังก์ และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.4001 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3989 ดอลลาร์แคนาดา
เงินยูโรแข็งค่าแตะ 1.1626 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ จาก 1.1618 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี ส่วนเงินปอนด์อังกฤษอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3304 ดอลลาร์ จาก 1.3323 ดอลลาร์
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. และเพิ่มขึ้น 3.0% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 0.4% รายเดือน และ 3.1% รายปี
เงินยูโรแข็งค่าขึ้น หลังผลสำรวจบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจในยูโรโซนขยายตัวเร็วกว่าคาดในเดือนต.ค. โดยเฉพาะในภาคบริการ
ประเด็นสงครามการค้ากลับมาอยู่ในความสนใจอีกครั้ง หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า ได้ยุติการเจรจาการค้ากับแคนาดาทั้งหมด เนื่องจากโฆษณาของรัฐออนแทรีโอที่ใช้เสียงอดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนกล่าวถึงภาษีในเชิงลบ
นักลงทุนยังคงจับตาการพบปะระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนในสัปดาห์หน้า
การประชุมระหว่างทรัมป์และสี จิ้นผิง ที่เกาหลีใต้สร้างความหวังว่าความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสองเศรษฐกิจใหญ่ของโลกอาจคลี่คลายลง
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังประกาศคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันรัสเซีย Rosneft และ Lukoil จากบทบาทของรัสเซียในสงครามยูเครน ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ซึ่งกดดันสกุลเงินที่ต้องนำเข้าน้ำมัน เช่น เงินเยน
เงินเยนอ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 152.85 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ แม้ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของญี่ปุ่นระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานยังคงอยู่เหนือเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางญี่ปุ่น ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในระยะสั้น ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ กำลังเตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่าเกินกว่า 9.2 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยประชาชนรับมือกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น
ด้านเงินปอนด์อ่อนค่าลง แม้ยอดค้าปลีกของอังกฤษออกมาดีกว่าคาดจากความต้องการทองคำของร้านอัญมณีออนไลน์ แต่โดยรวมเงินปอนด์อ่อนค่าลงราว 1% ในรอบสัปดาห์นี้ หลังข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนแอหนุนความคาดหวังว่าธนาคารกลางอังกฤษอาจลดดอกเบี้ยภายในปีนี้