โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) คาดการณ์ว่า เงินเยนของญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันอ่อนค่าลงมาก อาจจะกลับมาแข็งค่าขึ้นไปถึงระดับ 100 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐได้ในอีก 10 ปีข้างหน้า เนื่องจากนโยบายการเงินของญี่ปุ่นจะกลับสู่ภาวะปกติอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งจะทำให้เงินเยนพลิกกลับมาอยู่ในทิศทางที่แข็งค่า หลังจากที่อ่อนค่าลงมาเป็นระยะเวลานานหลายปี
นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า การคาดการณ์ดังกล่าวไม่ได้น่าตกใจ หากมองว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กำลังจะเริ่มยุติการใช้เครื่องมือการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษที่ใช้มานานหลายปี เช่น การควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (yield-curve control)
ทั้งนี้ เงินเยนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ BOJ ใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบในปี 2559 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่ดอลลาร์/เยนมีการซื้อขายใกล้ระดับ 100 การที่เงินเยนอ่อนค่าลงมากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เงินทุนไหลออกนอกประเทศ แต่ในอีกด้านก็ช่วยให้ผู้ส่งออกของญี่ปุ่นได้เปรียบ และหนุนให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ด้วย
โกลด์แมน แซคส์ ตั้งข้อสังเกตว่า ในอดีตค่าเงินเยนมักจะกลับไปสู่มูลค่าที่แท้จริงเมื่อเวลาผ่านไป แนวโน้มนี้เห็นได้ชัดในช่วงปี 2563 ถึงต้นปี 2564 เมื่อค่าเงินแข็งค่าขึ้นอันเนื่องมาจากการที่นักลงทุนทั่วโลกหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวลดลง
แม้การที่ซานาเอะ ทาคาอิจิ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น มีจุดยืนสนับสนุนการผ่อนคลายนโยบายการเงินและกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการขยายมาตรการทางการคลังจะถูกมองว่าเป็นปัจจัยลบในระยะสั้นต่อเงินเยน แต่นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่าโอกาสที่ญี่ปุ่นจะกลับไปใช้นโยบายอาเบะโนมิกซ์ (Abenomics) นั้นเริ่มจะเป็นไปได้ยาก เนื่องจากถูกกระแสต่อต้านทางการเมือง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ