ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (28 ต.ค.) หลังมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวลงอย่างมากในเดือนต.ค. นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังคงถูกกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันนี้ (29 ต.ค.)
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.12% แตะที่ 98.667
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 152.11 เยน จากระดับ 152.82 เยนในวันจันทร์ (27 ต.ค.) ขณะเดียวกันก็อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.7930 ฟรังก์ จากระดับ 0.7952 ฟรังก์ และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3942 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3993 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1662 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1650 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3280 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3338 ดอลลาร์
ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 94.6 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. แต่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 93.2
ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และตลาดแรงงานสหรัฐ
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจมุมมองของผู้บริโภค สถานะการเงินส่วนบุคคล การจ้างงาน รวมทั้งความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและในช่วง 6 เดือนข้างหน้า
นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟด และการแถลงข่าวของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในวันนี้ (29 ต.ค.) ตามเวลาสหรัฐฯ ขณะที่นักลงทุนคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการพบกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ในวันพฤหัสบดีนี้ นอกรอบการประชุมเอเปคซึ่งจัดขึ้นที่เกาหลีใต้ ขณะที่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า ปธน.ทรัมป์และปธน.สี จะหารือเกี่ยวกับกรอบการค้าเพื่อลดภาษีที่สหรัฐฯ เรียกเก็บต่อสินค้าจีน แลกกับการที่จีนให้คำมั่นว่าจะควบคุมการส่งออกสารเคมีตั้งต้นของเฟนทานิล