ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (9 ธ.ค.) หลังจากตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ ออกมาแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งตอกย้ำว่าตลาดแรงงานยังคงฟื้นตัวได้ดี ก่อนธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศผลการประชุมนโยบายการเงิน
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.13% แตะที่ 99.220
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 156.84 เยน จากระดับ 155.91 เยน ขณะเดียวกันก็อ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8060 ฟรังก์ จากระดับ 0.8067 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3849 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3850 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1628 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1640 ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3302 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3327 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุน หลังสำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.67 ล้านตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน จากระดับ 7.66 ล้านตำแหน่ง และ 7.23 ล้านตำแหน่งในเดือนก.ย.และส.ค.ตามลำดับ
ตัวเลข JOLTS นับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ให้ความสนใจ โดยมองว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ด้านธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้เริ่มการประชุมนโยบายการเงินครั้งสุดท้ายของปี 2568 แล้ว โดยนักลงทุนต่างคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกครั้งในวันพุธนี้ (10 ธ.ค.) ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 88.6% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25%