ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (19 ธ.ค.) ขณะที่เงินเยนอ่อนค่าอย่างรุนแรงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและสกุลเงินหลักอื่น ๆ หลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับสูงสุดในรอบ 30 ปี แต่ไม่ได้ให้ความชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.18% สู่ระดับ 98.599
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 157.51 เยนในวันศุกร์ (19 ธ.ค.) จาก 155.52 เยนในวันพฤหัสบดี (18 ธ.ค.), ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าขึ้นแตะ 0.7946 ฟรังก์สวิส จาก 0.7940 ฟรังก์สวิส และแข็งค่าขึ้นแตะ 1.3786 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.3781 ดอลลาร์แคนาดา
ส่วนเงินยูโรอ่อนค่าลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 1.1724 ดอลลาร์สหรัฐในวันศุกร์ จาก 1.1725 ดอลลาร์สหรัฐในวันพฤหัสบดี ขณะที่เงินปอนด์อังกฤษแข็งค่าแตะระดับ 1.3391 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.3386 ดอลลาร์สหรัฐในวันพฤหัสบดี
เงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลัง BOJ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น 0.75% จาก 0.5% ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ผู้กำหนดนโยบายส่งสัญญาณล่วงหน้าไว้อยู่แล้ว ส่งผลให้นักลงทุนเทขายเงินเยน
การอ่อนค่าของเงินเยนยิ่งรุนแรงขึ้นหลังการแถลงข่าวภายหลังการประชุมของคาซูโอะ อูเอดะ ผู้ว่าการ BOJ ซึ่งยังคงกล่าวอย่างคลุมเครือเกี่ยวกับช่วงเวลาและจังหวะของการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต โดยระบุเพียงว่ายังเปิดโอกาสสำหรับการคุมเข้มนโยบายเพิ่มเติม
นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า โดยรวมแล้วสกุลเงินส่วนใหญ่อยู่ในช่วงปรับฐาน แต่สกุลเงินที่โดดเด่นที่สุดคือเงินเยน
เขากล่าวเสริมว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นปรับขึ้นดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดไว้ และส่งสัญญาณว่าจะเดินหน้าปรับขึ้นต่อ หากเศรษฐกิจเป็นไปตามที่คาด อย่างไรก็ดี เงินเยนกลับอ่อนค่าลงในวงกว้าง เนื่องจากนักลงทุนจำนวนมากมองว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นยังไม่คุมเข้มนโยบายมากพอ
ในแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงมุมมองว่า เงินเฟ้อพื้นฐานจะทยอยปรับเข้าสู่เป้าหมาย 2% ในช่วงครึ่งหลังของกรอบคาดการณ์ระยะ 3 ปี จนถึงปีงบประมาณ 2570 พร้อมย้ำว่าอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงยังอยู่ในระดับต่ำอย่างมาก แม้จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยแล้ว และให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าคุมเข้มนโยบายต่อ หากเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเป็นไปตามคาด
อย่างไรก็ดี ปัจจัยเหล่านี้ยังไม่เพียงพอที่จะหยุดการอ่อนค่าของเงินเยน
เทรดเดอร์เริ่มพิจารณาความเป็นไปได้ของการแทรกแซงค่าเงินจากทางการญี่ปุ่น หลังเงินเยนหลุดระดับ 155 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐในเดือนพ.ย.
ครั้งล่าสุดที่ทางการโตเกียวเข้าแทรกแซงตลาดค่าเงินคือในเดือนก.ค. 2567 เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐต่อเยนพุ่งขึ้นแตะ 161.96 เยน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษ 2520
ซัตสึกิ คาตายามะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น เตือนเมื่อวันศุกร์ว่า ญี่ปุ่นจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรับมือกับความผันผวนที่มากเกินไปในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน พร้อมระบุว่าจะตอบสนองอย่างเหมาะสมต่อการเคลื่อนไหวที่รุนแรง รวมถึงการเคลื่อนไหวที่เกิดจากนักเก็งกำไร
ยูโรทรงตัวหลังผู้นำสหภาพยุโรปตัดสินใจเมื่อวันศุกร์ให้กู้ยืมเงินเพื่อใช้สนับสนุนการป้องกันประเทศของยูเครนจากรัสเซียในช่วง 2 ปีข้างหน้า แทนการใช้ทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัดไว้ ซึ่งเป็นการหลีกเลี่ยงความเห็นต่างภายในกลุ่มเกี่ยวกับแผนการที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการนำเงินอธิปไตยของรัสเซียมาใช้
นอกจากนี้ เงินยูโรทรงตัว ขณะที่คริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรประบุเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ยังไม่ให้แนวทางล่วงหน้าเกี่ยวกับนโยบาย และย้ำว่ายังมีทุกทางเลือกในการดำเนินนโยบายการเงิน หลังธนาคารกลางยุโรปคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2% ตามคาด
เงินปอนด์อังกฤษเคลื่อนไหวผันผวนก่อนทรงตัว หลังธนาคารกลางอังกฤษปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 3.75% ตามที่ตลาดคาดไว้ อย่างไรก็ดี การตัดสินใจครั้งนี้มีคะแนนเสียงที่สูสีกว่าที่ตลาดประเมินไว้ ซึ่งอาจจำกัดโอกาสในการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม