ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์อ่อนค่า ตลาดคาดเฟดยังมีโอกาสลดดอกเบี้ยปีหน้า

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (23 ธ.ค.) เนื่องจากตลาดยังคงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในปีหน้า แม้สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาดในไตรมาส 3/2568

ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.35% แตะที่ 97.942

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 156.20 เยนจากระดับ 156.92 เยนในวันจันทร์ (22 ธ.ค.) ขณะเดียวกันก็อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.7877 ฟรังก์ จากระดับ 0.7918 ฟรังก์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3694 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3747 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1790 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1755 ดอลลาร์ ส่วนเงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3497 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3458 ดอลลาร์

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2568 โดยระบุว่า GDP ขยายตัว 4.3% ซึ่งเป็นการขยายตัวรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2566 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัวเพียง 3.3% โดยได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของการใช้จ่ายผู้บริโภค

แม้ตัวเลข GDP ที่แข็งแกร่งเกินคาดทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนม.ค.ปีหน้า แต่ก็ยังมองว่าเฟดมีโอกาสที่จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. รวมทั้งคาดว่าเฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีหน้า ซึ่งมากกว่าที่กรรมการเฟดส่งสัญญาณในรายงาน Dot Plot ล่าสุดว่าอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีหน้า

นักวิเคราะห์จากบริษัท Silver Gold Bull คาดการณ์ว่า ดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลงต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้า เนื่องจากเฟดยังคงมีมุมมองว่าตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ยังอ่อนแอ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงความจำเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อฟื้นฟูตลาดแรงงาน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวลง 3.8 จุด สู่ระดับ 89.1 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 91.7

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนลดลง 2.2% ในเดือนต.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 1.5% ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน แต่เพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี