ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะ 1.3336 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3347 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นที่ 1.5642 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5640 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นแตะ 97.50 เยน จากระดับ 97.39 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9260 ฟรังค์ จากระดับ 0.9257 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับขึ้นที่ 0.9199 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9138 ดอลลาร์สหรัฐ
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในเชิงบวกที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ได้กระตุ้นกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดมาตรการกระตุ้นทางการเงินขนานใหญ่ในปีนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนดอลลาร์
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.9% ในเดือนก.ค. สู่ระดับ 896,000 ยูนิต ขณะที่ยอดการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 2.7% แตะที่ 943,000 ยูนิต
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่าประสิทธิภาพการผลิตนอกภาคการเกษตรประจำไตรมาส 2 ของปีนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.9% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม การทะยานขึ้นของดอลลาร์ได้ถูกสกัดไว้ เนื่องจากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนส.ค.ร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี โดยดัชนีปรับลงแตะ 80 จาก 85.1 ในเดือนก.ค.