เงินยูโรแข็งค่า 0.02% ที่ระดับ 1.3300 ดอลลาร์/ยูโร จาก 1.3297 ดอลลาร์/ยูโรเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ขณะที่เงินปอนด์ก็แข็งค่า 0.46% แตะ 1.5876 ดอลลาร์/ปอนด์ จาก 1.5804 ดอลลาร์/ปอนด์
เงินดอลลาร์อ่อนตัวลง 0.24% สู่ระดับ 99.300 เยน/ดอลลาร์ จาก 99.540 เยน/ดอลลาร์ และอ่อนค่า 0.13% แตะ 0.9291 ฟรังก์สวิส/ดอลลาร์ จากระดับ 0.9303 ฟรังก์สวิส/ดอลลาร์
เงินดอลลาร์ออสเตรเลียหดตัวลง 0.24% สู่ระดับ 0.9244 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จาก 0.9266 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ขณะที่เงินดอลลาร์นิวซีแลนด์เพิ่มขึ้น 0.07% แตะที่ 0.8141 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.8135 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) มีกำหนดประชุมในวันที่ 17-18 ก.ย.นี้ ซึ่งนักลงทุนจับตาดูว่าเฟดจะปรับลดขนาด QE หรือไม่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณเป็นระยะๆว่า เฟดอาจจะปรับลดขนาด QE หากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานและภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อคืนนี้สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่คละกันไป โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยว่า ยอดค้าปลีกประจำเดือนส.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% จากเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% จากเดือนก่อนหน้านี้ เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากราคาพลังงานที่ขยายตัวสูงขึ้น
รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเดือนก.ย.ร่วงลงอย่างหนักไปอยู่ที่ระดับ 76.8 จากระดับ 82.1 ในช่วงท้ายเดือนส.ค. ซึ่งรุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงสู่ระดับ 82.0 จุด