ค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3804 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3739 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าสู่ระดับ 1.6521 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6467 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 105.11 เยน จากระดับ 105.14 เยน อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8872 ฟรังค์ จากระดับ 0.8924 ฟรังค์ และลดลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ 1.0644 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.0707 ดอลลาร์แคนาดา
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8913 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8865 ดอลลาร์
นิตยสารข่าวรายสัปดาห์ Der Spiegel ของเยอรมนี รายงานว่า ประธานอีซีบีกล่าวว่า เขาไม่เห็นว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนในการลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งคำกล่าวดังกล่าวได้หนุนค่าเงินยูโรให้สูงขึ้น
ขณะเดียวกันสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 วัน ซึ่งปกติแล้ว ดอลลาร์จะเคลื่อนไหวโดยสัมพันธ์กับผลตอบแทนพันธบัตร เนื่องจากบอนด์ยิลด์ที่ลดลงได้ลดความน่าดึงดูดในสินทรัพย์ที่ซื้อขายกันในสกุลเงินดอลลาร์
โดยเมื่อวันศุกร์ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 3% แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ซึ่งบ่งชี้ถึงสภาพเศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้น