ทั้งนี้ เมื่อเวลา 11.50 น.ตามเวลาลอนดอน ยูโรแข็งค่าขึ้น 0.6% แตะที่ 1.3628 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะเดียวกันยูโรแข็งค่าขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 142.03 เยน
สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นหลังจากมาร์กิต อีโคโนมิคส์ เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของยูโรโซน ปรับขึ้นสู่ระดับ 53.2 ในเดือนม.ค. จากระดับ 52.1 ในเดือนธ.ค. โดยดัชนีเดือนม.ค.เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2554 และเป็นการปรับตัวขึ้น 7 เดือนติดต่อกัน บ่งชี้ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคนั้นแข็งแกร่งขึ้น
แถลงการณ์ระบุว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นในเดือนม.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 53.9 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 32 เดือน จาก 52.7 ในเดือนธ.ค. ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบสี่เดือนที่ 51.9 จากระดับ 51.0 ในเดือนธ.ค.
ส่วนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ขณะที่นักลงทุนจับตาดูจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 ม.ค. ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น 4,000 ราย แตะที่ 330,000 ราย
ทั้งนี้ ตลาดการเงินจับตาดูข้อมูลด้านแรงงานอย่างใกล้ชิด เพราะจะเป็นปัจจัยชี้นำว่าเฟดจะปรับลดขนาดมาตรการ QE ลงอีกหรือไม่ หลังจากที่การประชุมเมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา เฟดมีมติปรับลดขนาด QE ด้วยการลดวงเงินการซื้อพันธบัตรลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน จากเดิมที่ระดับ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน