ค่าเงินยูโรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3775 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3751 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นสู่ระดับ 1.6671 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.6645 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 103.21 เยน จากระดับ 102.80 เยน และปรับลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8841 ฟรังค์ จากระดับ 0.8869 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9275 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9250 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากถ้อยแถลงของประธานเฟดที่ระบุว่า ภาวะซบเซาอย่างมากในตลาดแรงงานสหรัฐเน้นย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นที่เฟดยังต้องช่วยหนุนเศรษฐกิจด้วยนโยบายที่ผ่อนคลายแบบพิเศษต่อไป “สักระยะหนึ่ง"
ขณะเดียวกัน ข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐมีการปรับตัวแตกต่างกัน โดยสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ของสหรัฐ เปิดเผยว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนมี.ค.ลดลงแตะ 55.9 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว จาก 59.8 ในเดือนก.พ. แต่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัสรายงานว่า ภาวะทางธุรกิจในภาคการผลิตของเท็กซัสในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 4.9 จาก 0.3 ในเดือนก.พ. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาคการผลิตยังคงมีความแข็งแกร่ง