ค่าเงินยูโรลดลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3715 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3764 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงสู่ระดับ 1.6590 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.6626 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 103.92 เยน จากระดับ 103.75 เยน และปรับขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8913 ฟรังค์ จากระดับ 0.8867 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9227 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9246 ดอลลาร์สหรัฐ
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ หลังจากอีซีบีมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบี กล่าวว่าอีซีบีมีมติเป็นเอกฉันท์ต่อพันธสัญญาที่จะใช้เครื่องมือต่างๆเพื่อจัดการกับความเสี่ยงที่ยูโรโซนจะเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อต่ำที่ยืดเยื้อเกินไป
ขณะเดียวกัน ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากข้อมูลของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ที่ระบุว่า ดัชนีภาคบริการเดือนมี.ค.ของสหรัฐขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 53.1 ซึ่งแม้ว่าตัวเลขดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 53.5 แต่ก็ยังสูงกว่าเดือนก.พ.ที่ระดับ 51.6
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลด้านการจ้างงานของสหรัฐกลับออกมาในเชิงลบ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 มี.ค. เพิ่มขึ้น 16,000 ราย สู่ระดับ 326,000 ราย ซึ่งออกมาสูงกว่าเป้าหมายของนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าเพิ่มขึ้นแตะ 319,000 ราย
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างยังคงรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค. ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าอัตราว่างงานของสหรัฐจะลดลงแตะ 6.6% ในเดือนมี.ค. จาก 6.7% ในเดือนก่อนหน้า