ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 105.06 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 105.23 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9309 ฟรังค์ จากระดับ 0.9325 ฟรังค์
ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.2958 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.2939 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.6331 1.2958 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ1.6334 1.2958 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.9376 1.2958 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9351 1.2958 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากกระทรวงแรงงานของสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 225,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 6.1% จาก 6.2% ในเดือนก.ค.
ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์นั้น ส่งผลให้ตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดแรงงานของสหรัฐ และยังลดน้ำหนักของกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากความคิดเห็นครั้งล่าสุดของนายอิริค โรเซนเกร็น ประธานเฟดสาขาบอสตันที่ว่า เฟดยังไม่ควรรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เมื่อพิจารณาจากตลาดแรงงานที่ยังคงซบเซาอยู่มาก
ส่วนสกุลเงินยูโรฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากธนาคารกลางยุโรปประกาศลดอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานลงสู่ระดับ 0.05% และปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อีซีบีจ่ายให้แก่ธนาคารที่นำเงินมาฝากกับอีซีบี (Deposit facility) ลงสู่ระดับ -0.2% พร้อมกับประกาศว่าจะเริ่มซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (asset-backed securities) และตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ (covered bonds) จากภาคเอกชนในเดือนต.ค.นี้