ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2747 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2781 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6310 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6341 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 108.69 เยน เทียบกับระดับ 108.99 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9469 ฟรังค์ จาก 0.9452 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8785 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8875 ดอลลาร์
สกุลเงินยูโรร่วงลงแตะ 1.2747 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2555
นักวิเคราะห์มองว่าการที่ดอลลาร์ทะยานขึ้นเป็นผลมาจากความแตกต่างด้านนโยบายระหว่างเฟดและอีซีบี ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาในเชิงบวกในสัปดาห์นี้ได้ช่วยหนุนกระแสคาดการณ์ของตลาดที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปี 2558
เมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 20 ก.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12,000 ราย แตะที่ 293,000 ราย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 300,000 ราย
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแรงในยูโรโซนได้กดดันสกุลเงินยูโร โดยผลสำรวจของมาร์กิตเมื่อวันอังคารแสดงให้เห็นว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซนในเดือนก.ย.ปรับตัวลงที่ 52.3 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 9 เดือน จาก 52.5 ในเดือนส.ค. ซึ่งส่งสัญญาณที่น่าวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาค
ทางด้านมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีกล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันพุธว่า อัตราดอกเบี้ยในยูโรโซนจะยังคงอยู่ที่ระดับต่ำเช่นในปัจจุบันต่อไปเป็นระยะเวลานาน เพื่อหนุนเศรษฐกิจของภูมิภาค และอีซีบีจะใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม หากจำเป็น