ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2310 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2479 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5688 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5638 ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.82 เยน เทียบกับระดับ 119.24 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9777 ฟรังค์ จาก 0.9727 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8403 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8449 ดอลลาร์
ดอลลาร์ได้รับแรงหนุน หลังจาก ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐปรับตัวขึ้น 208,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ขณะที่นายคาร์ลอส โรดริเกซ ประธาน ADP กล่าวว่าข้อมูลดังกล่าวยังคงแสดงให้เห็นว่า “การขยายตัวของการจ้างงานมีความแข็งแกร่งเหนือระดับ 200,000 ตำแหน่ง"
ขณะเดียวกัน สถาบันจัดการอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐขยายตัวสู่ระดับ 59.3 ในเดือนพ.ย. จาก 57.1 ในเดือนต.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 57.6 เท่านั้น
นอกจากนี้ นักลงทุนกำลังรอดูข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.ของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ เพื่อประเมินภาพรวมตลาดแรงงานของสหรัฐ
ส่วนเงินยูโรเผชิญปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของยูโรโซน เนื่องจากผลสำรวจของมาร์กิตแสดงให้เห็นว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการของยูโรโซนในเดือนพ.ย. ลดลงแตะ 51.1 จากระดับ 52.1 ในเดือนต.ค. และจากตัวเลขเบื้องต้นเดือนพ.ย.ที่ 51.4