ดอลลาร์ดีดตัวแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อเทียบกับเยน แต่การซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบาง เนื่องจากตลาดการเงินญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้เนื่องในวันหยุด
ทั้งนี้ ยูโรร่วงลง 0.25% สู่ระดับ 1.1295 ดอลลาร์ และอ่อนค่าลง 0.4% เมื่อเทียบกับปอนด์ แตะระดับ 73.85 เพนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี
ดอลลาร์ดีดตัวขึ้น 0.4% สู่ระดับ 119.95 เยน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน จากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในกลางปีนี้
นายจอห์น วิลเลียม ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า เวลาที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกำลังใกล้เข้ามาทุกขณะแล้ว และเขาเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เฟดอาจดำเนินการล่าช้าเกินไป
นายวิลเลียมระบุว่า ขณะนี้สภาวะทางเศรษฐกิจกำลังเข้าใกล้มากขึ้นสู่ความเป็นไปได้ที่เฟดจะเริ่มต้นคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับการปรับนโยบายกลับสู่ระดับปกติ
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์กันว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 257,000 รายในเดือนม.ค. จากระดับ 329,000 รายในเดือนธ.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย สู่ระดับ 5.7% จาก 5.6% ในเดือนธ.ค.
ตัวเลขการจ้างงานในเดือนม.ค.ถือเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกันที่การจ้างงานเพิ่มขึ้นมากกว่า 200,000 ราย
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 234,000 รายในเดือนม.ค. และอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ 5.5%
รัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนจะประชุมกันในวันนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการสนับสนุนทางการเงินต่อกรีซ ขณะที่เตรียมการสำหรับผู้นำของสหภาพยุโรป (EU) ที่จะเจรจาในเรื่องดังกล่าวในวันพรุ่งนี้ ขณะที่รมว.คลังยูโรโซนจะประชุมอีกครั้งในวันจันทร์หน้า
การประชุมของรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนในวันนี้ มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จน้อยมาก ขณะที่ทุกฝ่ายมองล่วงหน้าไปถึงการประชุมรมว.คลังยูโรโซนอีกครั้งในวันจันทร์หน้าที่คาดว่าอาจมีการบรรลุข้อตกลงแก้ไขปัญหาหนี้ระยะสั้นสำหรับกรีซ ก่อนที่มาตรการช่วยเหลือทางการเงินต่อกรีซฉบับปัจจุบันของ EU จะหมดอายุลงในวันที่ 28 ก.พ.นี้
สื่อรายงานว่า คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) จะยื่นข้อเสนอประนีประนอมในการประชุม โดยจะมีการขยายเวลาการชำระหนี้ของกรีซออกไปอีก 6 เดือน เพื่อให้กรีซมีเวลาในการเจรจาและทำข้อตกลงกับ EU และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) รวมทั้งธนาคารกลางยุโรป (ECB) เกี่ยวกับประเด็นที่ยังคั่งค้างอยู่ และแผนการหลังสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือทางการเงินต่อกรีซ