ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1193 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1199 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะ 1.5434 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5406 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.68 เยน จากระดับ 119.44 เยน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9542 ฟรังก์ จาก 0.9536 ฟรังก์ และลดลงสู่ระดับ 1.2518 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.2527 ดอลลาร์แคนาดา
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7811 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7795 ดอลลาร์
ทั้งนี้ ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบยูโรและเยน หลังการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐที่ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับจีดีพีช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว โดยระบุว่ามีการขยายตัว 2.2% ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ 2.6% แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2%
ขณะที่ผลสำรวจของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐขั้นสุดท้ายของเดือนก.พ.ขยับขึ้นสู่ระดับ 95.4 จากตัวเลขเบื้องต้นที่ 93.6 โดยถึงแม้ตัวเลขเดือนก.พ.ต่ำกว่าระดับ 98.1 ของเดือนม.ค. แต่ก็ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีจะอยู่ที่ระดับ 94.0
ดัชนีความเชื่อมั่นในเดือนม.ค.อยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2004 โดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มการจ้างงานและค่าแรงที่ดีขึ้น
ด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ปรับตัวขึ้น 1.7% แตะระดับ 104.2 ในเดือนม.ค.เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง นับเป็นอีกหนึ่งสัญญาณซึ่งแสดงถึงการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐ
เมื่อเทียบรายปี ดัชนีพุ่งขึ้น 8.4% ในเดือนม.ค. โดยค่าดัชนีที่สูงกว่า 100 บ่งชี้ถึงการขยายตัว
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีจะเพิ่มขึ้น 2% ในเดือนม.ค.
นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภา และคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎร เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ว่า เฟดจะพิจารณาปัจจัยที่หลากหลายทางเศรษฐกิจเพื่อประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายอัตราดอกเบี้ย โดยเฉพาะข้อมูลเศรษฐกิจอย่างการจ้างงานและเงินเฟ้อ
โดยนักวิเคราะห์มองว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาดีอย่างต่อเนื่องอาจกระตุ้นให้เฟดพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ ซึ่งการขึ้นดอกเบี้ยจะดึงดูดให้นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์
สำหรับในสัปดาห์หน้า จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนก.พ. ซึ่งนักลงทุนจับตาดูอย่างใกล้ชิด