ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1399 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1356 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5770 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5744 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.22 เยน เทียบกับระดับ 119.13 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9129 ฟรังก์ จาก 0.9168 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8069 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8101 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐยังคงปรับตัวย่ำแย่ ท่ามกลางแนวโน้มการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน เมื่อพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาที่ออกมาในทิศทางที่แตกต่างกัน
เมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ร่วงลงในเดือนเม.ย. ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงกดดันเงินเฟ้อที่ระดับต่ำ และเฟดจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยดัชนี PPI สำหรับอุปสงค์ขั้นสุดท้ายลดลง 0.4% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่ดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน ลดลง 0.2% ในเดือนเม.ย.
ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 9 พ.ค. ปรับตัวลง 1,000 ราย แตะ 264,000 ราย ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงมีความแข็งแกร่ง โดยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ระดับ 273,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว
นักวิเคราะห์บางรายมองว่า เงินเฟ้อที่ระดับต่ำยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันเฟดในการพิจารณาช่วงเวลาที่จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้