ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 120.62 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 120.03 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9799 ฟรังค์ จากระดับ 0.9761 ฟรังค์
ส่วนยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.1196 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1220 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.5190 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5237 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7019 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7036 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนหลังจากนางเยลเลนแถลงในที่ประชุมหัวข้อ "พลวัตเงินเฟ้อและนโยบายการเงิน" หรือ " Inflation Dynamics and Monetary Policy" ที่เมืองแอมเฮิร์สท์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ว่า เฟดมีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ตราบใดที่ภาวะเงินเฟ้อยังคงมีเสถียรภาพ และเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะหนุนการจ้างงาน
การส่งสัญญาณที่ชัดเจนของนางเยลเลนในครั้งนี้ ช่วยลดความไม่แน่นอนในตลาด และยังบ่งชี้ว่าเฟดมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ
นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์ยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า จีดีพีขั้นสุดท้ายสำหรับช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ขยายตัว 3.9% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขที่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 3.7% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 3.7% บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งขณะเข้าสู่ช่วงไตรมาส 3