ดอลล์พุ่งเกือบ 1% ทำนิวไฮ 2 สัปดาห์ ขณะนักลงทุนคาดการณ์เฟดขึ้นดบ.ปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 4, 2016 20:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์สู่กรอบกลางของ 102 เยน โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง และการที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ณ เวลา 20.29 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.91% สู่ระดับ 102.53 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.48% สู่ระดับ 114.44 เยน และร่วงลง 0.42% สู่ระดับ 1.1162 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.50% สู่ระดับ 96.219

นายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานเฟด สาขาริชมอนด์ กล่าวว่า เหตุผลสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกำลังมีน้ำหนักมากขึ้น โดยเฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างมากเพื่อทำให้เงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม

"การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเพื่อป้องกันล่วงหน้ามีแนวโน้มที่จะมีบทบาทสำคัญในการรักษาเสถียรภาพของเงินเฟ้อ" เขากล่าว

ทั้งนี้ เฟดประกาศคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในช่วง 0.25-0.50% ในการประชุมเดือนที่แล้ว และกรรมการเฟดส่วนใหญ่ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ก่อนสิ้นปีนี้

อย่างไรก็ดี นายแลคเกอร์ระบุว่า ประวัติศาสตร์ทางด้านเศรษฐกิจได้บ่งชี้ให้เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยควรอยู่สูงกว่าระดับในปัจจุบันราว 1.50% เมื่อพิจารณาจากระดับของอัตราการว่างงาน และอัตราเงินเฟ้อในขณะนี้

ท่าทีของนายแลคเกอร์สอดคล้องกับนางโลเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟด สาขาคลีฟแลนด์ ที่กล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. แม้ว่าการประชุมจะมีขึ้นก่อนการเลือกตั้งสหรัฐวันที่ 8 พ.ย. เพียงไม่กี่วัน พร้อมกับเน้นย้ำว่า การเมืองไม่ได้ส่งผลต่อการตัดสินใจของเฟด

เมื่อวานนี้ สหรัฐเปิดเผยผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ที่ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM พุ่งขึ้นแตะระดับ 51.5 ในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 49.4 ในเดือนส.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 50.3 โดยดัชนีอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะขยายตัว หลังจากที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ในเดือนส.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะหดตัว

การเปิดเผยตัวเลขภาคการผลิตดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง

ปอนด์ดิ่งลงเป็นวันที่ 2 ในวันนี้ จากความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับผลกระทบที่อังกฤษจะได้รับจากการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) หลังนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เปิดเผยว่า ตนจะเริ่มกระบวนการนำอังกฤษถอนตัวจากสหภาพยุโรป (EU) อย่างเป็นทางการในช่วงสิ้นเดือนมี.ค.ปีหน้า

ณ เวลา 18.08 น.ตามเวลาไทย ปอนด์ร่วงลง 0.61% อยู่ที่ 1.2763 ดอลลาร์ หลังจากแตะ 1.2757 ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.1985 ส่งผลให้ปอนด์ทรุดตัวลงแล้ว 15% นับตั้งแต่ที่อังกฤษทำประชามติแยกตัวจาก EU ในวันที่ 23 มิ.ย.

อย่างไรก็ดี นางเมย์ยังไม่ได้ระบุถึงวันที่แน่นอนในการใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนของสหภาพยุโรปที่กำหนดไว้สำหรับประเทศสมาชิกที่ต้องการถอนตัวจากการเป็นสมาชิกของกลุ่ม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ