ดอลลาร์ดิ่งลงในวันนี้เมื่อเทียบกับเยน หลังการเปิดเผยตัวเลขการค้าที่อ่อนแอของจีนได้ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองดอลลาร์ ซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง แม้มีแนวโน้มว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.
ณ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.53% สู่ระดับ 103.63 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.34% สู่ระดับ 114.28 เยน และดีดตัวขึ้น 0.20% สู่ระดับ 1.1028 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.23% สู่ระดับ 92.757
ดอลลาร์ดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนครึ่งในช่วงแรก ขานรับรายงานการประชุมเฟดที่บ่งชี้ว่าเฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.
อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ร่วงลงในเวลาต่อมา หลังการเปิดเผยตัวเลขการค้าที่อ่อนแอของจีนซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
สำนักงานศุลกากรจีนรายงานในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนก.ย.ร่วงลง 5.6% เทียบรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.2%
ส่วนมูลค่าการค้าต่างประเทศในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ ลดลง 1.9% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยยอดส่งออกในช่วงเวลาดังกล่าว ปรับตัวลง 1.6% และยอดนำเข้า ลดลง 2.3%
เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ประจำเดือนก.ย. โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดที่ต้องการให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย มีความวิตกว่าการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นเวลานานเกินไป จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย