นายไห่ปิน จู หัวหน้านักวิเคราะห์ของเจพี มอร์แกนประจำสำนักงานในจีน ระบุว่า การพุ่งขึ้นของดอลลาร์หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีหน้า เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้หยวนอ่อนค่าลงในขณะนี้
ทั้งนี้ ทางการจีนกำหนดค่ากลางของหยวนประจำวันนี้ที่ระดับ 6.9508 ต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2008 และดิ่งลงกว่า 2% เมื่อเทียบกับระดับ 6.9289 เมื่อวานนี้ ขณะที่จีนเผชิญกับการไหลออกของกระแสเงินทุนจำนวนมาก หลังเฟดประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันพุธ
ทางด้านหนังสือพิมพ์ไชน่า ซีเคียวริตีส์ เจอร์นัล รายงานว่า ทางการจีนได้เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราผ่านทางธนาคารขนาดใหญ่ของจีนหลายแห่ง ซึ่งได้ทำการเทขายดอลลาร์ และอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดอินเตอร์แบงก์เมื่อวานนี้ เพื่อหนุนค่าเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์
ส่วนหนังสือพิมพ์ พีเพิลส์ เดลี่ ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ระบุในบทบรรณาธิการว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องวิตกกังวลมากนักว่า การที่สหรัฐปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งแรงกดดันให้หยวนอ่อนค่าลงต่อไป และทำให้มีกระแสเงินทุนไหลออกเพิ่มขึ้น
"ห้วงเวลาที่ 'สหรัฐจาม และทั่วโลกจะติดหวัด' ได้ผ่านพ้นไปแล้ว ขณะนี้สภาพคล่องในตลาดโลกไม่ได้รวมอยู่ในดอลลาร์สหรัฐเพียงอย่างเดียว" พีเพิลส์ เดลี่ระบุ"ในระยะสั้น หยวนจะยังคงเผชิญกับแรงกดดันให้อ่อนค่าลง แต่ในระยะยาว ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจจะเป็นตัวตัดสินทิศทางของหยวนในตลาด"