สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) หลังจากสหรัฐได้ปรับเพิ่มประมาณการขั้นสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 3 ตลอดจนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐานที่ดีเกินคาดในเดือนพ.ย.
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 117.62 จากระดับ 117.55 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0257 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0261 ฟรังก์สวิส
ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0433 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0428 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2287 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2343 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงที่ระดับ 0.7203 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7304 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ด้วยแรงหนุนจากการที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้เปิดเผยตัวเลขประมาณการขั้นสุดท้ายสำหรับการขยายตัวของจีดีพีประจำไตรมาส 3 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 3.5% สูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ที่ระดับ 3.2% และสูงกว่าประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 2.9% สืบเนื่องจากแรงหนุนของการส่งออกซึ่งเพิ่มขึ้น 10.0% ในไตรมาส 3 และการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.0% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบกับระดับ 4.3% ในไตรมาส 2
นอกจากนี้ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ ได้ดีดตัวขึ้น 0.9% ในเดือนพ.ย. หลังเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค.
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะเปิดเผยในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน และยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย.