ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วงเทียบดอลล์ นักลงทุนวิตกการเมืองยุโรป

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 8, 2017 07:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) เนื่องจากปัจจัยความไม่แน่นอนทางการเมืองในยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกตั้งในฝรั่งเศส ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ด้วยปัจจัยบวกจากความคิดเห็นของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย ที่ระบุว่า เฟดควรปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0694 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0748 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2515 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2479 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7633 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7659 ดอลลาร์

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 112.10 เยน จากระดับ 111.73 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9976 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9910 ฟรังก์สวิส

นักวิเคราะห์มองว่า ยูโรได้รับแรงกดดันให้อ่อนค่าลงจากปัจจัยความไม่แน่นอนก่อนหน้าการเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นในหลายประเทศในยูโรโซน โดยเฉพาะฝรั่งเศสซึ่งนักลงทุนเกิดความวิตกกังวล หลังจากที่นางมารีน เลอ เปน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเนชั่นแนล ฟรอนท์ ได้ประกาศว่า เธอจะนำฝรั่งเศสถอนตัวออกจากยูโรโซนหากเธอชนะศึกเลือกตั้ง นอกจากนี้ เธอยังแสดงจุดยืนต่อต้านระบบโลกาภิวัตน์

ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจากแรงซื้อทางเทคนิค และยังได้แรงหนุนจากการที่นายแพทริค ฮาร์เกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย ได้แสดงความเห็นว่า เฟดควรพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนหน้า หากว่าการจ้างงานและค่าจ้างแรงงานยังคงมีการขยายตัวต่อไป

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 175,000 ตำแหน่ง

ขณะที่ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนม.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 0.4% ในเดือนธ.ค. หรือปรับตัวขึ้นเพียง 3 เซนต์ในเดือนม.ค. หรือ 2.5% เมื่อเทียบรายปี

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า สหรัฐมีตัวเลขขาดดุลการค้าลดลง 3.2% ในเดือนธ.ค. สู่ระดับ 4.43 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าสหรัฐจะมีตัวเลขขาดดุลการค้าลดลงสู่ระดับ 4.50 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค.

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนธ.ค., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ