สกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) ภายหลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวานนี้
ปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.3131 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3239 ดอลลาร์ ในขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.1869 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1868 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7942 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7976 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 110.17 เยน จากระดับ 110.56 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9700 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9695 ฟรังก์สวิส
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้นไม่ถึง 0.01% สู่ระดับ 92.837 เมื่อคืนนี้
สกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ภายหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (MPC) มีมติด้วยคะแนนเสียง 6-2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้ BoE ยังมีมติเอกฉันท์ 8-0 ให้คงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 4.35 แสนล้านปอนด์ และคงวงเงินซื้อหุ้นกู้ในภาคเอกชนที่ระดับ 1 หมื่นล้านปอนด์
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐพุ่งขึ้น 3.0% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2016 หลังปรับตัวลง 2 เดือนติดต่อกัน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.9%
ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าทุนพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดอาวุธและเครื่องบิน ทรงตัวในเดือนมิ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนพ.ค. โดยยอดสั่งซื้อดังกล่าวได้รับการจับตาว่าเป็นมาตรวัดความเชื่อมั่น และแผนการใช้จ่ายในภาคธุรกิจ
ส่วนจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 5,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 240,000 ราย ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 242,000 ราย
ขณะที่ไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยผลการสำรวจว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.7 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. จากระดับ 54.2 ในเดือนมิ.ย.
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ค.ในวันนี้ เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งอาจบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนก.ค.จะเพิ่มขึ้นราว 180,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนก.ค.จะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 4.3% จากระดับ 4.4% ในเดือนมิ.ย.