ดอลลาร์อ่อนค่าลงสู่กรอบล่างของ 110 เยนในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสิ่งบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้
ณ เวลา 20.31 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ร่วงลง 0.38% สู่ระดับ 110.32 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลง 0.21% สู่ระดับ 130.31 เยน และดีดตัวขึ้น 0.17% สู่ระดับ 1.1813 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.13% สู่ระดับ 93.31
นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ในช่วงแรก หลังการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเมื่อคืนนี้ ซึ่งทำให้คาดว่าช่องว่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐและญี่ปุ่นจะหดแคบลง
อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ชะลอตัวลงในเวลาต่อมา ขณะที่นักลงทุนรอการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในวันพฤหัสบดี และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันศุกร์
นักวิเคราะห์ระบุว่า หากอัตราเงินเฟ้อดีดตัวขึ้น ก็จะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวปรับตัวขึ้น และจะทำให้นักลงทุนส่งคำสั่งซื้อดอลลาร์
นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดสามารถชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อไม่มีแนวโน้มที่จะพุ่งขึ้นมาก หากตลาดแรงงานสหรัฐยังคงมีการปรับตัวดีขึ้น
"อัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับปัจจุบันยังคงมีความเหมาะสมในระยะใกล้" นายบูลลาร์ดระบุ
ทั้งนี้ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ อยู่ที่ระดับ 1.5% และอยู่ห่างจากระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
นายบูลลาร์ดกล่าวว่า มีการคาดการณ์กันว่าอัตราเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้นเพียงแค่ระดับ 1.8% ถึงแม้อัตราการว่างงานของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 3% จากระดับ 4.3% ในปัจจุบัน ซึ่งจากการที่มีแรงกดดันต่อเงินเฟ้อเพียงเล็กน้อย ทำให้เฟดจึงไม่จำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อชะลอการขยายตัวทางเศรษฐกิจ